เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม – ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองกวาดาลาฮารา ได้จัดโครงการ “สร้างหุ้นส่วนทางธุรกิจไทยกับภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (Latin Link 2023)” ณ บราซิลและเม็กซิโก ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ๒ ลำดับแรกและเป็นประเทศคู่ค้าลำดับที่ ๑ และ ๒ ของไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกาฯ ตามลำดับ โดยมีนางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งคณะผู้แทนภาคธุรกิจไทยได้เดินทางเยือนนครเซาเปาลู บราซิล และกรุงเม็กซิโกและเมืองกวาดาลาฮารา เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ ๑ และ ๒ ของเม็กซิโก
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างนักธุรกิจไทยกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของบราซิลและเม็กซิโก แสวงหาโอกาสทางธุรกิจสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทย ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าที่มีศักยภาพในภูมิภาคลาตินอเมริกาฯ โดยผู้เข้าร่วมประกอบด้วยนักธุรกิจ ๑๑ คน จาก SMEs ไทยในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ เนื้อสัตว์แช่แข็ง สินค้าเกษตร อ้อย น้ำตาล สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เทคโนโลยีการเกษตร เครื่องจักรกลทางการเกษตร ชิ้นส่วนยานยนต์ ผู้แทนนำเข้าและส่งออก ผู้จัดหาและให้บริการส่งสินค้าทางเรือ และผู้ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ
คณะได้พบหารือกับผู้แทนภาครัฐและกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นในนครเซาเปาลู รวมถึงผู้แทนภาคธุรกิจของไทยที่ลงทุนในบราซิล โดยได้เยือนที่ทำการรัฐบาลแห่งรัฐเซาเปาลู เพื่อพบหารือกับนาย Lucas Ferraz เลขาธิการด้านการต่างประเทศ นาย Marco Rocha รองเลขาธิการด้านการต่างประเทศ และนาย Jose Luis Fontes ผู้ประสานงานความสัมพันธ์องค์กร สำนักเลขาธิการด้านการเกษตร เพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าและความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับบราซิล จากนั้น คณะได้เข้าพบหารือผู้แทนสภาการค้าสินค้า บริการ และการท่องเที่ยวแห่งรัฐเซาเปาลู (Federation of Trade in Goods, Services and Tourism of the State of São Paulo: FecomercioSP) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากนาย Rubens Medrano รองประธานสภาฯ เกี่ยวกับภาพรวมการพัฒนาเศรษฐกิจและโอกาสทางธุรกิจในบราซิล อีกทั้งได้เข้าเยี่ยมชมบริษัทชั้นนำของบราซิล ๒ แห่ง ได้แก่ บริษัท JBS ซึ่งเป็นบริษัทด้านการแปรรูปเนื้อที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และบริษัท BRASKEM ซึ่งเป็นบริษัทด้านปิโตรเคมีและพลาสติกชีวฐานชั้นนำของโลก) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมทั้งสำรวจโอกาสในการทำธุรกิจกับบริษัททั้งสองข้างต้น นอกจากนี้ คณะได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นของบราซิล รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันพร้อมกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ (business-matching) ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย เพื่อเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำธุรกิจในบราซิลจากภาคธุรกิจไทยที่ลงทุนอยู่ในบราซิล และหารือโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจกับคู่ค้าที่มีศักยภาพ
คณะได้เข้าร่วมการประชุมในเมืองกวาดาลาฮารากับนาย Miguel Ángel Landeros Volquarts ประธานสภาธุรกิจเม็กซิโกว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ การลงทุนและเทคโนโลยี ในภูมิภาคเม็กซิโกตะวันตก (COMCE OCCIDENTE) พร้อมด้วยสมาชิกจากภาคธุรกิจในท้องถิ่น ราว ๗๐ คน เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับศักยภาพทางเศรษฐกิจของเมืองกวาดาลาฮารา รัฐฮาลิสโก และภูมิภาคเม็กซิโกตะวันตก โดยเฉพาะเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตยานยนต์ และสุรา ทั้งนี้ คณะยังได้แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้เข้าร่วมฝ่ายเม็กซิโก และได้เยี่ยมชม El Castillo de Tequila ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องดื่มเตกีลาชั้นนำ เพื่อศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกและเก็บเกี่ยวต้นอากาเว่ (Agave) เพื่อนำมาผลิตเครื่องดื่มเตกีลา รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในสาขาดังกล่าว
นอกจากนี้ คณะยังได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเม็กซิโกซิตี ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมการติดต่อระหว่างภาคธุรกิจ (Business-to-Business: B2B) ซึ่งจัดขึ้นโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก เพื่อพบปะและหารือความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทเม็กซิโกที่มีศักยภาพในสาขาต่าง ๆ
โครงการ Latin Link 2023 เป็นโครงการที่กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้จัดขึ้นในภูมิภาคลาตินอเมริกาฯ เป็นครั้งที่ ๓ โดยจัดขึ้นครั้งแรกในปี ๒๕๕๙ ที่คิวบาและเปรู ครั้งที่สองในปี ๒๕๖๒ ที่เม็กซิโก บราซิล และชิลี ซึ่งได้ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกาฯ ช่วยเปิดประตูให้แก่ภาคธุรกิจของไทย และเพิ่มพูนการค้าทวิภาคีและการลงทุนระหว่างกันมากยิ่งขึ้น
แหล่งที่มา: https://www.mfa.go.th/th/content/latinlink2023?cate=5d5bcb4e15e39c306000683d